การหาพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน
กำหนดประเด็นปัญหา
1. การใช้ประโยชน์ที่ดินประเภทใดบ้างที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนในรัศมี
500
เมตร
และมีพื้นที่เท่าใด
2. การใช้ประโยชน์ที่ดินที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนอยู่ในตำบล
อำเภอ และจังหวัดใดบ้าง และมีพื้นที่เท่าใด
กำหนดปัจจัยหรือตัวแปรที่ใช้วิเคราะห์
1. ขอบเขตน้ำท่วมถึงในพื้นที่ศึกษา
2. แผนที่การใช้ประโยชน์ที่ดิน
3. ขอบเขตการปกครอง
การเตรียมข้อมูล
ได้แก่
การเชื่อมต่อข้อมูล การปรับแก้และตรวจสอบข้อมูล
การวิเคราะห์ข้อมูล
ทำการเปิดชั้นข้อมูลเขตการปกครองขึ้นมา จากนั้นทำการรวมข้อมูลโดยใช้คำสั่ง Merge ที่อยู่ในแถบ Menu Bar ที่ชื่อว่า Geoprocessing
หน้าต่างของ Merge ช่องที่ 1 Input Datasets ให้เราเลือกชั้นข้อมูลเขตการปกครองทั้งหมด
ช่องที่ 2 Output Datasets เลือกว่าจะจัดเก็บที่ไหน จากนั้นคลิก OK
เมื่อเราทำการรวมชั้นข้อมูลแล้ว ให้ทำการลบชั้นข้อมูลเดิมที่ยังไม่ได้การ Merge ออกได้เลย
เปิดข้อมูลที่เกี่ยวข้อกับชั้นข้อมูลเขตการปกครองขึ้นมา เพื่อนำมาเชื่อมข้อมูล luamp , lucode , luprv , lutam
เปิดดูข้อมูลของชั้นข้อมูล โดยการคลิกขวาที่ชั้นข้อมูลของชั้นข้อมูล เลือกที่ Open Attribute table
การเชื่อมตารางของขอ้มูล luprv เป็นการเชื่อมแบบ one to one ดังนั้นเราจะใช้การเชื่อมแบบ Join จากคำสั่ง Table Option > Joins and Relates > Join
หน้าต่่างของ Join Data ช่องที่ 1 และช่องที่ 3 ให้ใส่ข้อมูลที่เราต้องการ จากชั้นข้อมูลของ luprv ส่วนช่องที่ 2 ให้ใส่ตัวฐานของข้อมูลที่เรานำมา จากนั้นกด OK
จะแสดงช่องของ PRV_NAME* ที่เป็นรายชื่อจังหวัดขึ้นมา
ปิดตารางข้อมูลของ luprv ที่ไม่ใช้
จากนั้นทำการเปิดข้อมูลของ luamp เพื่อดูว่ามีข้อมูลไหนที่สามารถเชื่อมเข้ากับฐานข้อมูลได้บ้าง
เชื่อมข้อมูล จะใช้กาเชื่อมข้อมูลแบบ Join เพราะข้อมูลที่ต้องการเป็นแบบ one to one เลือกที่ Table Option > Joins and Relates > Join
จะแสดงช่องของ AMP_NAME ซึ่งเป็นชั้นข้อมูลของชื่อ อำเภอ
จากนั้นกดปิดชั้นข้อมูลของ luamp
เปิดชั้นข้อมูลของ lutam ที่เป็นข้อมูลของ รหัสอำเภอ
เชื่อมข้อมูล จะใช้กาเชื่อมข้อมูลแบบ Join เพราะข้อมูลที่ต้องการเป็นแบบ one to one เลือกที่ Table Option > Joins and Relates > Join
หน้าต่่างของ Join Data ช่องที่ 1 และช่องที่ 3 ให้ใส่ข้อมูลที่เราต้องการ จากชั้นข้อมูลของ lutam ส่วนช่องที่ 2 ให้ใส่ตัวฐานของข้อมูลที่เรานำมา จากนั้นกด OK
จะมีชั้นข้อมูลของ TAM_NAME ปรากฏขึ้นมาในชั้นข้อมูล
กดปิดข้อมูลที่ไม่ต้องการออก
ต่อไปจะทำการ Buffer ข้อมูล เลือกที่แถบคำสั่งที่ชื่อว่า Geoprocessing > Buffer
หน้าต่างของ Buffer ช่องที่ 1 Input Features ให้ใส่ของเขตของเขื่อน
ช่องที่ 2 Output Feature Class ใส่ว่าจะต้องการจัดเก็บที่ไหน
ช่องที่ 3 Distance ใส่ระยะทาง จากนั้นคลิก OK
เมื่อเราทำ Buffer ของ Dam เสร็จก็จะทำการลบ Dam ที่เป็นตัวชั้นข้อมูลเดิมออก
ต่อไปจะทำการ Clip ข้อมูล เลือกที่แถบคำสั่งที่ชื่อว่า Geoprocessing > Clip
หน้าต่างของ Clip ช่อที่ 1 Input Features ให้ใส่ขอบเขตที่ต้องการตัด
ช่องที่ 2 Clip Features เลือกชั้นข้อมูลที่จะนำมาทำ Clip
ช่องที่ 3 Output Feature Class เลือกว่าจะจัดเก็บที่ไหน จากนั้นคลิก OK
ผลลัพธ์จากการทำ Clip ขอบเขตการปกครอง และ Buffer ข้อมูลเขื่อน
ลบข้อมูลที่ไม่ใช้ออก
ต่อมาคือการทำ Merge ของชั้นข้อมูล Landuse
เลือกข้อมูล Landuse ทั้ง 4 ขึ้นมาคือ l5138i , l5238iii , l5238iv , l5239iii จากนั้นเลือกคำสั่ง Merge ที่อยู่ในแถบคำสั่ง Geoprocessing > Merge
หน้าต่างของ Merge ช่องที่ 1 Input Dataset เลือกข้อมูล Landuse ทั้ง 4 คือ l5138i , l5238iii , l5238iv , l5239iii
ช่องที่ 2 Output Dataset ให้เลือกว่าจะจัดเก็บไฟล์ที่ไหน จากนั้นคลิก OK
จากนั้นทำการลบชั้นข้อมูลที่ไม่ต้องการออก เพราะข้อมูลที่ลบนั้นเราทำการ รวมเป็นข้อมูลเดียวกันเรียบร้อยแล้ว
ทำการรวมตารางข้อมูล โดยเริ่มจากการเปิดชั้นข้อมูล คลิกขวาที่ ที่ชั้นข้อมูลจากนั้นคลิกที่ Open Attribute Table
เปิดข้อมูลที่ชื่อว่า lucode ขึ้นมาเพื่อที่จะทำการเชื่อมกับชั้นข้อมูล i_merge
เชื่อมข้อมูล จะใช้กาเชื่อมข้อมูลแบบ Join เพราะข้อมูลที่ต้องการเป็นแบบ one to one เลือกที่ Table Option > Joins and Relates > Join
หน้าต่่างของ Join Data ช่องที่ 1 และช่องที่ 3 ให้ใส่ข้อมูลที่เราต้องการ จากชั้นข้อมูลของ lucode ส่วนช่องที่ 2 ให้ใส่ตัวฐานของข้อมูลที่เรานำมา จากนั้นกด OK
ในหน้าต่างชั้นข้อมูลของ i_merge จะปรากฏชั้นข้อมูล ASSOCLUT ที่ได้จากการเชื่อมตารางข้อมูล
ต่อมาคือการทำ Clip ชั้นข้อมูล Landuse ใช้คำสั่ง Clip ที่อยู่ในแถบเครื่องมือ Geoprocessing > Clip
หน้าต่างของ Clip ช่อที่ 1 Input Features ให้ใส่ขอบเขตที่ต้องการตัด
ช่องที่ 2 Clip Features เลือกชั้นข้อมูลที่จะนำมาทำ Clip
ช่องที่ 3 Output Feature Class เลือกว่าจะจัดเก็บที่ไหน จากนั้นคลิก OK
ผลลัพธ์ของการทำ Clip ข้อมูล Landuse
หน้าต่างของ Union ช่องที่ 1 Input Features ให้ใส่ข้อมูลที่ต้องการรวม
ช่องที่ 2 Output Feature Class เลือกว่าจะจัดเก็บที่ไหน จากนั้นคลิก OK
จะได้ผลลัพธ์ของการรวมข้อมูล clip500 และ admin500
ทำการตรวจสอบข้อมูล โดยการคลิกขวาที่ Layer ข้อมูล เลือก Open Attribute Table
จะทำการคำนวนพื้นที่โดยเลือกที่ Table Option > Add Field
หน้าต่างของ Add Field ช่องที่ 1 Name ให้ใส่ชื่อตารางใหม่
ช่องที่ 2 เลือกประเภทเป็นแบบทศนิยม Float
ช่องที่ 3 Field Properties เลือกให้ ตัวเลขไม่เกิน 20 ตัว และทศนิยมไม่เกิน 2 ตำแหน่ง จากนั้นคลิก OK
จะปรากฏตารางเปล่าที่เราทำการ add field เข้าไป
ทำการคำนวณพื้นที่ โดยการคลิกขวาที่ชื่อตาราง และเลือก Calculate Geometry
ช่อง Property ให้เลือกเป็นตารางที่ต้องการ จากนั้นคลิก OK
ตารางที่เปล่าในตอนแรกจะมีข้อมูลการคำนวณพื้นที่ที่เป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง
เมื่อเราทำข้อมูลต่างๆ เสร็จเรียบร้อย ก็จะทำการแสดงผลของตารางลงใน Microsoft Excel
วิธีการเปิดไฟล์ข้อมูล ในช่องของประเภทให้เลือกเป็น All Files จากนั้นเลือกไฟล์ final.dbf จากนั้นคลิกเปิดข้อมูล
หน้าต่างจะแสดงผลลัพธ์ที่ต้องการขึ้นมา จากนั้นถ้าต้องการเลือกเฉพาะข้อมูลที่ต้องการ ให้คลิกเลือกที่คำสั่ง แทรก > Pivot Table > PivotTable
ทำการเลือกขอบเขต จากนั้นคลิก OK
ทำการเลือกข้อมูลที่ต้องการ โดยในตัวอย่างจะใช้ข้อมูล
1. luprv_PRV1 ที่เป็นข้อมูลชื่อจังหวัด
2. luamp_AMP1 เป็นข้อมูลอำเภอ
3. lutam_tam_ เป็นข้อมูลตำบลของแต่ละจังหวัด
และเลือกข้อมูล Area_1 เพื่อทำการคำนวณพื้นที่
จะปรากฏผลลัพธ์ที่เราต้องการโดยมีการคำนวณพื้นที่ให้เรียบร้อย
Video How to 8 : การวิเคราะห์เเบบจำลองเวกเตอร์ Vector model
อ้างอิง : สื่อการสอน อาจารย์ ดร.ณรงค์ พลีรักษ์ คณะภูมิสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา